โรคเนื้องอกในสมองอันตราย กับภัยที่ทุกคนควรรู้

โรคเนื้องอกในสมอง (Brain Tumor) เป็นภาวะที่เกิดจากการเจริญเติบโตผิดปกติของเซลล์ในสมอง ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในสมองส่วนต่างๆ หรือในเยื่อหุ้มสมอง โดยเนื้องอกในสมองสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ เนื้องอกในสมองชนิดที่ไม่เป็นมะเร็ง (Benign Brain Tumor) และเนื้องอกในสมองชนิดที่เป็นมะเร็ง (Malignant Brain Tumor) ซึ่งแต่ละชนิดมีการรักษา และผลกระทบต่อร่างกายที่แตกต่างกัน บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักสาเหตุ อาการ และวิธีการรักษาเนื้องอกในสมอง เพื่อให้คุณเตรียมตัว และดูแลสุขภาพให้แข็งแรง

โรคเนื้องอกในสมอง-Brain Tumor

แหล่งที่มาของภาพ : https://www.vejthani.com

โรคเนื้องอกในสมองเป็นอย่างไร

อาการของเนื้องอกในสมองอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับตำแหน่งและขนาดของเนื้องอก โดยอาการที่พบได้บ่อย ได้แก่

  1. ปวดศีรษะรุนแรง โดยเฉพาะในช่วงเช้า หรือเวลาตื่นนอน
  2. อาการชัก ที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และอาจเกิดขึ้นซ้ำๆ
  3. การมองเห็นเปลี่ยนแปลง เช่น เห็นภาพซ้อน มองเห็นแสงหรือจุดในสายตา
  4. คลื่นไส้ และอาเจียน โดยไม่เกี่ยวกับอาหาร
  5. อาการซึมเศร้า และอารมณ์เปลี่ยนแปลง ที่ไม่มีสาเหตุชัดเจน
  6. สูญเสียความจำ หรือมีปัญหาในการทำกิจกรรมที่เคยทำได้ตามปกติ
  7. กล้ามเนื้ออ่อนแรง และอาการชาในแขน ขา หรือใบหน้า

หากพบอาการเหล่านี้ร่วมกันเป็นระยะเวลานาน ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัย

ปัจจัยที่เสี่ยงต่อโรคเนื้องอกในสมอง

เนื้องอกในสมองอาจเกิดจากหลายปัจจัยที่มีความเสี่ยง ได้แก่

  1. ปัจจัยพันธุกรรม หากมีสมาชิกในครอบครัวที่เคยเป็นเนื้องอกในสมอง อาจเพิ่มโอกาสที่คนในครอบครัวจะมีความเสี่ยงมากขึ้น
  2. การได้รับรังสี ผู้ที่เคยได้รับรังสีเพื่อการรักษา โดยเฉพาะบริเวณศีรษะ อาจมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดเนื้องอกในสมองมากขึ้น
  3. อายุ เนื้องอกในสมองพบมากในกลุ่มผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปี แต่ก็สามารถเกิดในเด็กและวัยรุ่นได้เช่นกัน
  4. การสัมผัสกับสารเคมีบางชนิด เช่น สารเคมีในโรงงานอุตสาหกรรมหรือสารบางประเภทที่อาจก่อให้เกิดมะเร็ง

ถึงแม้ว่าสาเหตุของเนื้องอกในสมองจะยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจน แต่ปัจจัยข้างต้นอาจเพิ่มโอกาสในการเกิดเนื้องอกได้

วินิจฉัยได้อย่างไร

การวินิจฉัยเนื้องอกในสมองสามารถทำได้โดยการตรวจหลายรูปแบบ เช่น

  1. การถ่ายภาพ MRI และ CT Scan การถ่ายภาพ MRI และ CT Scan เป็นวิธีที่แพทย์ใช้เพื่อระบุขนาดและตำแหน่งของเนื้องอกได้อย่างแม่นยำ
  2. การตรวจชิ้นเนื้อ (Biopsy) แพทย์อาจต้องทำการตรวจชิ้นเนื้อเพื่อตรวจหาชนิดของเซลล์ในเนื้องอก ว่ามีการเติบโตแบบมะเร็งหรือไม่
  3. การตรวจคลื่นไฟฟ้าสมอง (EEG) ใช้เพื่อตรวจจับการทำงานของสมอง และวินิจฉัยหากมีการทำงานที่ผิดปกติจากเนื้องอก

วิธีการรักษาโรคเนื้องอกในสมอง

การรักษาเนื้องอกในสมองจะขึ้นอยู่กับชนิดและระยะของเนื้องอก วิธีที่ใช้ในการรักษา ได้แก่

  1. การผ่าตัด หากเนื้องอกอยู่ในตำแหน่งที่สามารถผ่าตัดได้ แพทย์อาจทำการผ่าตัดเพื่อเอาเนื้องอกออกเพื่อลดความกดดันในสมอง
  2. การฉายรังสี (Radiation Therapy) ใช้รังสีเพื่อทำลายเซลล์ที่เติบโตผิดปกติ มักใช้ในกรณีที่ไม่สามารถผ่าตัดได้
  3. การใช้ยาเคมีบำบัด (Chemotherapy) เคมีบำบัดเป็นการใช้ยาเพื่อทำลายเซลล์มะเร็งในสมอง
  4. การรักษาด้วย Targeted Therapy เป็นการใช้ยาที่สามารถเจาะจงทำลายเซลล์มะเร็งโดยไม่กระทบกับเซลล์ปกติ
  5. การรักษาทางกายภาพบำบัด ช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นฟูความสามารถในการใช้กล้ามเนื้อและการทำงานของร่างกายหลังการรักษา

วิธีป้องกันการเกิดเนื้องอกในสมอง

แม้ว่าจะไม่สามารถป้องกันเนื้องอกในสมองได้ทั้งหมด แต่การดูแลสุขภาพและลดความเสี่ยงโดย

  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารเคมีอันตราย เช่น สารเคมีในโรงงานอุตสาหกรรม
  • หลีกเลี่ยงการได้รับรังสีที่ไม่จำเป็น หากจำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยรังสี ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับผลกระทบและความเสี่ยง
  • รักษาสุขภาพโดยรวม ออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และครบถ้วนเพื่อลดความเสี่ยง

สรุป

โรคเนื้องอกในสมอง เป็นภาวะที่ต้องเฝ้าระวัง หากพบอาการผิดปกติที่กล่าวไว้ข้างต้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและเริ่มการรักษาอย่างเหมาะสม การดูแลสุขภาพที่ดีและการตรวจสุขภาพเป็นประจำสามารถช่วยให้เรารับมือกับปัญหาสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Ref.

เนื้องอกในสมอง ภัยร้ายที่มาพร้อมอาการปวดหัวเรื้อรัง | รพ.นครธน

โรคเนื้องอกสมอง “ยิ่งรู้เร็ว ยิ่งรักษาง่าย”

ปวดหัวบ่อย เห็นภาพซ้อน สัญญาณเตือนเสี่ยง “เนื้องอกในสมอง”