รู้จักโรคอ้วน หรือภาวะน้ำหนักเกิน ภัยร้ายใกล้ตัวคุณ
โรคอ้วน (Obesity) เป็นภาวะที่เกิดจากการสะสมของไขมันในร่างกายมากเกินไปจนส่งผลเสียต่อสุขภาพ โดยมักจะวัดค่าดัชนีมวลกาย (BMI) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดความสมดุลระหว่างน้ำหนัก และส่วนสูงเพื่อประเมินความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ หากค่า BMI สูงกว่า 30 จะถือว่าเป็นโรคอ้วน
ที่มา:1 ใน 3 ของประชากรไทยเป็นโรคอ้วน
รู้ได้อย่างไรว่าเป็น “โรคอ้วน”
วิธีวัดไขมันมีหลายรูปแบบ โดยที่นิยมกันคือ การวัดจากดัชนีมวลกาย หรือ Body Mass Index – BMI และการตรวจวัดรอบเอว โดยทั่วไปแล้ว ควรมีค่า BMI อยู่ที่ระหว่าง 1
8.5-22.9 kg/m2
>ค่า BMI < 18.5 – 22.9 kg/m² เรียกว่า “ปกติ”
>ค่า BMI 23.0 – 24.9 kg/m² เรียกว่า “น้ำหนักเกิน”
>ค่า BMI > 25 kg/m² เรียกว่า “โรคอ้วน”
สาเหตุของโรคอ้วน
- พฤติกรรมการกิน: การบริโภคอาหารที่มีแคลอรีสูง เช่น อาหารที่มีไขมัน และน้ำตาลสูง หรือการกินอาหารมากเกินไปโดยไม่มีการควบคุม
- การขาดการออกกำลังกาย: การไม่ออกกำลังกายหรือไม่มีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอ ทำให้ร่างกายไม่สามารถเผาผลาญแคลอรีได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- พันธุกรรม: ปัจจัยทางพันธุกรรมอาจมีบทบาทในการควบคุมการสะสมของไขมันในร่างกาย รวมถึงการเผาผลาญพลังงาน
- ปัจจัยทางจิตใจ: ความเครียดหรือภาวะทางจิตใจ เช่น ภาวะซึมเศร้า อาจส่งผลให้เกิดการรับประทานอาหารมากขึ้น
- โรคและยาบางชนิด: บางโรค เช่น โรคเบาหวาน หรือยาบางประเภท เช่น ยากล่อมประสาทอาจมีผลต่อการเพิ่มน้ำหนัก
ผลกระทบของโรคอ้วนต่อสุขภาพ
โรคอ้วนไม่เพียงแต่ทำให้บุคคลมีรูปร่างที่เปลี่ยนไป แต่ยังส่งผลต่อสุขภาพในหลายๆ
1. โรคหัวใจและหลอดเลือด: การมีน้ำหนักเกินสามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และความดันโลหิตสูง
2 โรคเบาหวานประเภท 2: การสะสมไขมันส่วนเกินสามารถทำให้การตอบสนองต่ออินซูลินของร่างกายลดลง และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวาน
3 ปัญหากระดูกและข้อ: น้ำหนักตัวที่มากเกินไปสามารถทำให้เกิดการสึกหรอของข้อต่อ เช่น โรคข้อเข่าเสื่อม
4 ปัญหาการหายใจ: การมีไขมันสะสมในช่องท้องสามารถกดทับปอดและทำให้การหายใจลำบากขึ้น เช่น โรคหยุดหายใจขณะนอนหลับ
5 มะเร็งบางชนิด: โรคอ้วนยังเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในการเป็น5 มะเร็งหลายชนิด เช่น มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งเต้านม และมะเร็งโพรงมดลูก
การป้องกันและวิธีการรักษาโรคอ้วน
การป้องกันและรักษาโรคอ้วนเริ่มต้นจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินและการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
1.การควบคุมอาหาร: การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และควบคุมปริมาณแคลอรีที่รับเข้าไป โดยเลือกอาหารที่มีไฟเบอร์สูงและหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสูง
2.การออกกำลังกาย: การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เช่น การเดิน วิ่ง หรือการออกกำลังกายแบบแอโรบิคสามารถช่วยเผาผลาญแคลอรีและลดไขมัน
3.การปรับพฤติกรรมทางจิตใจ: การจัดการกับความเครียดและการรับมือกับปัญหาทางจิตใจด้วยวิธีที่เหมาะสม เช่น การทำสมาธิหรือการบำบัดทางจิต
4.การใช้ยาและการผ่าตัด: ในบางกรณีที่โรคอ้วนไม่สามารถควบคุมได้ด้วยการปรับพฤติกรรม อาจจำเป็นต้องใช้ยาหรือวิธีการผ่าตัด เช่น การผ่าตัดลดขนาดกระเพาะอาหาร (bariatric surgery)
ทำไมต้องลดน้ำหนักเพื่อรักษาโรคอ้วน?
การลดน้ำหนักเพื่อรักษาโรคอ้วนเป็นการกระทำที่สำคัญ เพราะการมีน้ำหนักเกินหรืออ้วนส่งผลกระทบต่อสุขภาพในหลายด้าน การลดน้ำหนักช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับโรคอ้วนและช่วยให้ร่างกายทำงานได้ดีขึ้น
- ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด
น้ำหนักตัวที่มากเกินไปสามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และความดันโลหิตสูง เนื่องจากการมีไขมันในร่างกายมากเกินไปจะทำให้ระดับไขมันในเลือดสูง เช่น คอเลสเตอรอล และไตรกลีเซอไรด์ ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือด - ลดความเสี่ยงของโรคเบาหวานประเภท 2
การลดน้ำหนักสามารถช่วยเพิ่มความไวของร่างกายต่ออินซูลิน ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวานประเภท ในผู้ที่มีน้ำหนักเกินหรืออ้วน โดยการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ - ปรับปรุงสุขภาพกระดูกและข้อ
น้ำหนักตัวที่มากเกินไปสามารถเพิ่มภาระให้กับข้อต่อ เช่น ข้อเข่า ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดโรคข้อเสื่อม (Osteoarthritis) การลดน้ำหนักช่วยลดแรงกดทับที่ข้อต่อและลดอาการปวดจากการเคลื่อนไหว - ลดความเสี่ยงของมะเร็งบางชนิด
การมีน้ำหนักเกินหรืออ้วนสามารถเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่ และมะเร็งโพรงมดลูก การลดน้ำหนักสามารถลดการสะสมของฮอร์โมนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเกิดมะเร็งในร่างกาย - ปรับปรุงระบบหายใจ
โรคอ้วนสามารถส่งผลต่อการหายใจ โดยอาจทำให้เกิดภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ (Sleep Apnea) เนื่องจากการสะสมของไขมันในร่างกายอาจไปกดทับทางเดินหายใจ การลดน้ำหนักช่วยลดการเกิดภาวะนี้ทำให้การหายใจดีขึ้น - เพิ่มความสามารถในการเคลื่อนไหวและความคล่องตัว
เมื่อร่างกายลดน้ำหนัก การเคลื่อนไหวและการทำกิจกรรมต่างๆ จะง่ายขึ้น เช่น การเดิน วิ่ง หรือการออกกำลังกาย เพราะน้ำหนักตัวที่น้อยลงจะช่วยให้ร่างกายมีความคล่องตัวและไม่รู้สึกหนัก - สุขภาพจิตและอารมณ์ที่ดีขึ้น
การลดน้ำหนักยังสามารถช่วยปรับปรุงสุขภาพจิต การมีน้ำหนักตัวที่เหมาะสมสามารถทำให้บุคคลรู้สึกมั่นใจในตัวเองมากขึ้น ลดความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้า
Website Reference
โรคอ้วน ภาวะอันตราย เสี่ยงหลายโรค
โรคอ้วน
รู้ทัน…โรคอ้วน โรคอันตรายที่เป็นประตูสู่โรคเรื้อรัง !