ลดไข้ อย่างถูกวิธีปลอดภัยจากอากาศเปลี่ยนแปลง
ช่วงนี้สภาพอากาศแปลกๆ จริงๆ บางวันร้อนอบอ้าว บางวันก็ฝนตกหนัก หรือบางครั้งอากาศเย็นๆ มันทำให้หลายคนต้องเจอปัญหากับการเป็นไข้หวัดอยู่บ่อยๆ ตั้งต้องเตรียมยาสำหรับ ลดไข้ อีก ทั้งที่เพิ่งหายไปไม่นาน พออากาศเปลี่ยนก็กลับมาเป็นอีกจนร่างกายสับสนไปหมด ไข้หวัดก็ถือเป็นเรื่องปกติในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเราต้องเตรียมพร้อมรับมือกับการ ลดไข้ อย่างถูกวิธี
ไข้หวัดเกิดจาก
ไข้หวัด (Common cold) เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส ซึ่งไวรัสที่เป็นสาเหตุหลักของไข้หวัดคือ ไวรัสที่ชื่อว่า “ไรโนไวรัส” (Rhinovirus)
ที่มา : เช็ดตัวลดไข้ เรื่องง่ายๆ ที่น้อยคนจะทำถูกต้อง
สาเหตุของการเกิดไข้หวัด
- ไวรัส ไข้หวัดเกิดจากการติดเชื้อไวรัสที่เข้าสู่ร่างกายผ่านการสัมผัสกับสารคัดหลั่ง เช่น น้ำมูก หรือไอของผู้ที่ติดเชื้อ
- การเปลี่ยนแปลงของอากาศ สภาพอากาศที่แปรปรวน เช่น การเปลี่ยนแปลงระหว่างฤดูร้อนและฤดูฝน หรือการที่อากาศเย็นลง มักทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายอ่อนแอลง ทำให้ร่างกายมีโอกาสติดเชื้อไวรัสได้ง่ายขึ้น
- การสัมผัสสารคัดหลั่งจากผู้ป่วย การสัมผัสมือหรือสิ่งของที่มีการปนเปื้อนจากน้ำมูกหรือเสมหะของผู้ที่ติดเชื้อไวรัส จะทำให้ไวรัสเข้าสู่ร่างกาย
- การอยู่ในที่ที่มีผู้คนหนาแน่น การอยู่ในสถานที่ที่มีผู้คนแออัด เช่น ในห้องเรียน หรือในที่ทำงาน จะทำให้ไวรัสแพร่กระจายได้ง่าย
อาการของไข้หวัด
ไข้หวัดมักเริ่มจากอาการเล็กน้อย เช่น คัดจมูก ไอ จาม มีน้ำมูก และอาจมีไข้ต่ำๆ อาการของไข้หวัดมักจะเริ่มต้นจากการที่เรารู้สึกไม่สบายตัวและมีอาการที่ค่อยๆ ทวีความรุนแรงขึ้นในช่วง 1-2 วันแรก ซึ่งจะค่อยๆ ดีขึ้นภายใน 7-10 วัน ถ้าไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนใดๆ แล้วถ้าไม่ดีขึ้น รีบติดต่อแพทย์โดยด่วน เพื่อความปลอดภัย
วิธีการ ลดไข้ อย่างถูกต้อง
การลดไข้มีหลายวิธีให้ปรับ และนำมาใช้ร่วมกัน ทั้งการรับประทานยาอย่างถูกต้อง การเช็ดตัวเพื่อบรรเทาอากา
ที่มา : เช็ดตัวลดไข้ เรื่องง่ายๆ ที่น้อยคนจะทำถูกต้อง
การเช็ดตัว ลดไข้
การเช็ดตัวลดไข้เป็นวิธีที่ช่วยลดอุณหภูมิร่างกายและทำให้รู้สึกสบายขึ้น โดยเฉพาะในกรณีที่มีไข้สูง
วิธีเช็ดตัวลดไข้
เตรียมน้ำ
- ใช้น้ำอุณหภูมิห้องหรือ น้ำอุ่น (ไม่เย็นเกินไป) เพราะน้ำเย็นอาจทำให้ร่างกายตอบสนองโดยการหดตัวของหลอดเลือดและทำให้ไข้สูงขึ้น
- หลีกเลี่ยงการใช้น้ำเย็น เนื่องจากอาจทำให้ร่างกายเกิดอาการหนาวสั่นและไข้สูงขึ้น
เตรียมผ้า
- ใช้ผ้านุ่มหรือผ้าขนหนูสะอาดชุบน้ำอุ่น พับให้พอดีกับการเช็ดตัว
- ไม่ควรใช้ผ้าหนาเกินไป เพราะจะทำให้ร่างกายไม่สามารถระบายความร้อนได้ดี
เริ่มเช็ดตัว
- เริ่มเช็ดที่ ใบหน้า (หน้าผากและหลังใบหู) โดยค่อยๆ เช็ดให้ทั่ว และเช็ดบริเวณ คอ และ รักแร้
- ค่อยๆ เช็ดที่แขนและขาให้ทั่ว โดยเฉพาะบริเวณที่มีเส้นเลือด เช่น ข้อพับแขน ข้อพับขา และข้อศอก
- เช็ดให้ทั่วตัว โดยเฉพาะส่วนที่มีเหงื่อและอุณหภูมิสูง เช่น บริเวณหลังและลำตัว
การเช็ดตัวซ้ำ
- หากต้องการลดไข้ต่อเนื่อง อาจต้องเช็ดตัวซ้ำทุก 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง หากไข้ยังไม่ลดลง
- ระหว่างการเช็ดตัว ควรดูแลร่างกายโดยการดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อป้องกันการขาดน้ำ
ระมัดระวัง
- อย่าใช้ น้ำเย็น เพราะอาจทำให้ไข้สูงขึ้นจากการที่ร่างกายต้องพยายามปรับตัว
- หากไข้ไม่ลดลงหรือมีอาการผิดปกติ เช่น หายใจลำบาก ควรไปพบแพทย์
การเช็ดตัวเป็นวิธีที่ช่วยลดไข้ได้ดีในกรณีที่ไข้ไม่สูงเกินไป แต่หากมีไข้สูงเกิน 39 องศาเซลเซียส หรือมีอาการที่รุนแรงขึ้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการดูแลที่เหมาะสม
ที่มา : กิน “ยาพารา” ครั้งละ 2 เม็ด เสี่ยงตับพังจริงไหม
การรับประทานยาเพื่อ ลดไข้
การทานยาลดไข้เป็นวิธีที่ช่วยลดอุณหภูมิร่างกายเมื่อมีไข้ แต่การใช้ยาลดไข้ควรทำอย่างระมัดระวังและตามคำแนะนำเพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงหรือการใช้ยาเกินขนาด
ยาลดไข้ที่แนะนำ
ที่มา : “พาราเซตามอล” ทานยังไงให้ถูกต้อง
พาราเซตามอล (Paracetamol)
พาราเซตามอลเป็นยาลดไข้และบรรเทาอาการปวดที่ใช้กันทั่วไป มีคุณสมบัติช่วยลดอุณหภูมิร่างกายและลดอาการปวดอย่างอ่อนโยน
ข้อดี ใช้ง่าย ไม่มีผลข้างเคียงต่อกระเพาะอาหาร และสามารถใช้ได้ในกรณีที่มีโรคกระเพาะหรือแผลในกระเพาะอาหาร
ข้อควรระวัง การใช้พาราเซตามอลในปริมาณที่มากเกินไปอาจทำให้เกิดพิษต่อตับได้ ดังนั้นต้องทานในขนาดที่แนะนำ และไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์ร่วมด้วย
ที่มา : ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) ใช้อย่างไรให้ปลอดภัย
ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen)
ไอบูโพรเฟนเป็นยาในกลุ่ม Non-Steroidal Anti-Inflammatory Drugs (NSAIDs) ที่ช่วยลดไข้ บรรเทาอาการปวด และมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ
ข้อดี เหมาะสำหรับอาการปวดที่มีการอักเสบ เช่น ปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อ หรืออาการปวดฟัน
ข้อควรระวัง ไอบูโพรเฟนอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองในกระเพาะอาหาร หรือมีผลกระทบต่อไตหากใช้ในระยะยาว ควรทานหลังอาหารเพื่อลดผลข้างเคียงจากการระคายเคืองกระเพาะอาหาร
ที่มา : ใช้แอสไพรินทุกวันเป็นอันตรายในผู้สูงอายุ
แอสไพริน (Aspirin)
แอสไพรินเป็นยาในกลุ่ม NSAIDs ที่ช่วยลดไข้ บรรเทาอาการปวด และมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ
ข้อดี แอสไพรินมีการใช้ในการป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด โดยการป้องกันการจับตัวของเลือด
ข้อควรระวัง แอสไพรินไม่ควรใช้ในเด็กหรือวัยรุ่นที่มีอาการไข้สูง เพราะอาจเสี่ยงต่อการเกิด Reye’s syndrome ซึ่งเป็นภาวะที่มีผลกระทบต่อสมองและตับ
ข้อแตกต่าง
- พาราเซตามอล ใช้สำหรับการลดไข้และบรรเทาอาการปวดทั่วไป
- ไอบูโพรเฟน เหมาะสำหรับการลดไข้ บรรเทาปวด และลดการอักเสบ
- แอสไพริ ใช้ลดไข้และบรรเทาอาการปวด แต่ต้องระวังในเด็กและผู้ที่มีปัญหากระเพาะอาหาร
ควรทานยาตามคำแนะนำและขนาดที่เหมาะสมเพื่อความปลอดภัย
ที่มา : เป็นไข้ห้ามกินอะไร รวมของแสลงที่ควรงดเมื่อมีไข้
การดูแลตัวเองคร่าว ๆ เมื่อเป็นไข้
การดูแลตัวเองสำหรับคนเป็นไข้ควรทำอย่างระมัดระวังเพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วและลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะแทรกซ้อน
พักผ่อนให้เพียงพอ
- ร่างกายต้องการพลังงานในการต่อสู้กับการติดเชื้อ ดังนั้นการนอนหลับและพักผ่อนเป็นสิ่งสำคัญมาก
- พยายามหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่หนักหรือเครียดจนเกินไป
ดื่มน้ำให้เพียงพอ
- ดื่มน้ำมากๆ เพื่อป้องกันการขาดน้ำจากการมีไข้ และช่วยให้ร่างกายระบายความร้อนได้ดีขึ้น
- สามารถดื่มน้ำอุ่น ชาอ่อนๆ หรือซุปเพื่อลดอาการอ่อนเพลีย
เช็ดตัวลดไข้
- หากมีไข้สูง ควรใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดตัว โดยเริ่มจากบริเวณใบหน้า รักแร้ และข้อพับ เพื่อช่วยลดอุณหภูมิร่างกาย
- หลีกเลี่ยงการใช้น้ำเย็นเพราะอาจทำให้ร่างกายตอบสนองและทำให้ไข้สูงขึ้น
ทานยาลดไข้ตามคำแนะนำ
- หากไข้ไม่ลดลง สามารถทานยาลดไข้เช่น พาราเซตามอล หรือไอบูโพรเฟน ตามขนาดที่แนะนำบนฉลากยา
- หลีกเลี่ยงการทานยาหลายชนิดพร้อมกัน และไม่ควรใช้ยาเกินขนาด
ทานอาหารที่ย่อยง่าย
- หากทานอาหารได้ ควรเลือกทานอาหารที่ย่อยง่าย เช่น โจ๊ก ซุป หรือผลไม้ เพื่อให้ร่างกายได้รับพลังงานโดยไม่ต้องใช้พลังงานในการย่อยอาหารมากเกินไป
สังเกตอาการ
- หากไข้สูงเกิน 39 องศาเซลเซียส หรือมีอาการอื่นๆ เช่น หายใจลำบาก หรืออาเจียน ควรไปพบแพทย์ทันที
- หากอาการไม่ดีขึ้นใน 2-3 วันหรือมีอาการผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์
การดูแลตัวเองข้างต้นจะช่วยให้การฟื้นตัวจากไข้เป็นไปได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย
การดูแลตัวเองเมื่อเป็นไข้ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่ทำตามขั้นตอนง่ายๆ เช่น พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำเยอะๆ เพื่อป้องกันการขาดน้ำ เช็ดตัวลดไข้ด้วยน้ำอุ่น และทานยาลดไข้ตามคำแนะนำเพื่อบรรเทาอาการไข้ที่สูงขึ้น นอกจากนี้ยังควรทานอาหารที่ย่อยง่ายและมีประโยชน์ เช่น โจ๊กหรือซุป เพื่อให้ร่างกายได้รับพลังงาน หากอาการไม่ดีขึ้นหรือลุกลาม ควรพบแพทย์ทันที การดูแลตัวเองตามขั้นตอนเหล่านี้จะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้นและปลอดภัยจากไข้
Ref
วิธีเช็ดตัวลดไข้ ที่ถูกต้องควรทำอย่างไร ?
วิธีลดไข้ เร็วที่สุด มีวิธีไหนบ้าง ลดไข้ได้ภายใน 30 นาที
เช็ดตัวลดไข้อย่างไร ได้ผลดีที่สุด
เมื่อลูกไม่สบาย ลดไข้อย่างไรให้ถูกวิธี