พยาธิไส้เดือน ภัยเงียบที่แฝงตัวในร่างกายและคุกคามสุขภาพ
พยาธิไส้เดือน เป็นปรสิตชนิดหนึ่งที่อาศัยอยู่ในลำไส้ของมนุษย์ โดยเฉพาะในลำไส้เล็ก การติดเชื้อพยาธิไส้เดือนอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพในหลายด้าน ทั้งทางกายและจิตใจ แม้ว่าโรคนี้จะสามารถป้องกันและรักษาได้ แต่ก็ยังคงเป็นปัญหาสุขภาพสำคัญ
ที่มารูป : พยาธิไส้เดือน Ascariasis – หาหมอ.com
ประเภทของพยาธิไส้เดือนที่พบบ่อย
พยาธิไส้เดือนที่พบได้บ่อยในมนุษย์ ได้แก่
- พยาธิตัวกลม (Roundworm) เป็นพยาธิที่มีรูปร่างกลมยาว พบได้บ่อยที่สุดในประเทศเขตร้อนชื้น
- พยาธิแส้ (Whipworm) มีลักษณะคล้ายแส้ มีขนาดเล็กกว่าพยาธิตัวกลม
- พยาธิเข็มหมุด (Pinworm) เป็นพยาธิตัวเล็กที่สุด พบได้บ่อยในเด็ก
วงจรชีวิตของพยาธิไส้เดือน
ไข่พยาธิจะเข้าสู่ร่างกายมนุษย์โดยการกินเข้าไป เมื่อไข่พยาธิเข้าสู่ลำไส้เล็ก จะฟักตัวเป็นตัวอ่อน และเจริญเติบโตเป็นตัวเต็มวัยในลำไส้ พยาธิตัวเมียจะวางไข่ ซึ่งจะออกมาปนเปื้อนในอุจจาระ และวงจรชีวิตก็จะเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
สาเหตุของการติดเชื้อพยาธิไส้เดือน
- การบริโภคอาหารหรือน้ำที่ปนเปื้อนไข่พยาธิ: ไข่พยาธิสามารถพบได้ในดิน น้ำ และอาหารที่ปนเปื้อน เช่น ผักสด ผลไม้ที่ล้างไม่สะอาด หรืออาหารสุกๆ ดิบๆ โดยเฉพาะอาหารทะเล
- การสัมผัสดินที่ปนเปื้อนไข่พยาธิ: โดยเฉพาะในเด็กที่ชอบเล่นดิน
- การสัมผัสกับอุจจาระของผู้ที่ติดเชื้อ: โดยตรงหรือทางอ้อม
- สภาพแวดล้อมที่ไม่ถูกสุขลักษณะ: เช่น ที่อยู่อาศัยที่แออัด ส้วมที่ไม่สะอาด
อาการของการติดเชื้อพยาธิไส้เดือน
อาการของการติดเชื้อพยาธิไส้เดือนอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับชนิดของพยาธิและจำนวนของพยาธิที่ติดเชื้อ ในบางรายอาจไม่มีอาการแสดงออกมา แต่หากมีอาการก็อาจพบได้ดังนี้
- ทางเดินอาหาร ปวดท้อง ท้องอืด ท้องเสีย อาเจียน คลื่นไส้ เบื่ออาหาร
- ระบบทางเดินหายใจ ไอเรื้อรัง หายใจลำบาก หอบหืด
- อาการทั่วไป อ่อนเพลีย น้ำหนักลด ไข้ต่ำ
- อาการอื่นๆ อาจมีอาการคันบริเวณทวารหนัก (ในกรณีติดเชื้อพยาธิเข็มหมุด) หรือมีพยาธิออกมาทางทวารหนัก
ภาวะแทรกซ้อนของการติดเชื้อพยาธิไส้เดือน
หากปล่อยให้การติดเชื้อพยาธิไส้เดือนเรื้อรัง อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ เช่น
- การอุดตันของลำไส้ พยาธิตัวโตอาจอุดตันในลำไส้
- การอักเสบของลำไส้ ทำให้เกิดอาการปวดท้องรุนแรง
- ภาวะขาดสารอาหาร เนื่องจากพยาธิแย่งอาหารจากร่างกาย
- การติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำซ้อน เนื่องจากภูมิคุ้มกันลดลง
- การอพยพของพยาธิไปยังอวัยวะอื่น เช่น ตับ ปอด
การวินิจฉัยโรคพยาธิไส้เดือน
แพทย์จะวินิจฉัยโรคพยาธิไส้เดือนโดยการตรวจอุจจาระเพื่อหาไข่พยาธิ หรือตรวจเลือดเพื่อหาแอนติบอดีของพยาธิ ในบางกรณีอาจต้องทำการตรวจเพิ่มเติม เช่น การตรวจลำไส้ด้วยกล้องส่อง
การรักษาโรคพยาธิไส้เดือน
การรักษาโรคพยาธิไส้เดือนจะใช้ยาต้านพยาธิ โดยชนิดและขนาดของยาจะขึ้นอยู่กับชนิดของพยาธิและอายุของผู้ป่วย ยาต้านพยาธิที่นิยมใช้ ได้แก่ อัลเบนดาโซล (Albendazole) และมีเบนดาโซล (Mebendazole)
ที่มารูป : Albendazole 400mg Tablet x 1 – XalMeds
การป้องกันโรคพยาธิไส้เดือน
- สุขอนามัยส่วนบุคคล ล้างมือให้สะอาดก่อนรับประทานอาหาร หลังเข้าห้องน้ำ และหลังสัมผัสดิน
- ปรุงอาหารให้สุก โดยเฉพาะเนื้อสัตว์
- ดื่มน้ำสะอาด น้ำที่ผ่านการต้มหรือกรอง
- ล้างผักผลไม้ให้สะอาด ก่อนรับประทาน
- ถ่ายอุจจาระในสุขาที่ถูกสุขลักษณะ และฝังกลบอุจจาระ
- สวมรองเท้าเมื่อเดินในพื้นที่ที่มีความเสี่ยง เช่น ดินที่ปนเปื้อน
- ควบคุมแมลงพาหะ เช่น ยุง
- ปรับปรุงสภาพแวดล้อม เช่น การจัดการขยะมูลฝอยอย่างถูกวิธี
กลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสเป็นโรคพยาธิไส้เดือน
- เด็ก: เนื่องจากเด็กมักชอบเล่นดินและนำสิ่งของเข้าปาก
- ผู้สูงอายุ: เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
- ผู้ที่มีสุขอนามัยไม่ดี: เช่น ผู้ที่อาศัยอยู่ในชุมชนที่มีสภาพแวดล้อมไม่สะอาด
- ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง: เช่น ผู้ป่วยเอดส์
สรุป
พยาธิไส้เดือนเป็นปัญหาสุขภาพที่สามารถป้องกันได้ การรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคลและการปรับปรุงสภาพแวดล้อมเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันการติดเชื้อพยาธิไส้เดือน หากสงสัยว่าตนเองติดเชื้อพยาธิ ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง
แหล่งอ้างอิง
พยาธิไส้เดือน (Ascariasis)
พยาธิไส้เดือน – อาการ, สาเหตุ, การรักษา – พบแพทย์